MONSOON AND TROPICAL CYCLONE CHANGES DURING 1981-2013 IN COASTAL AREA THE UPPER GULF OF THAILAND
ตัวแปรทางอุตุนิยมวิทยาที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเลในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนโดยในการศึกษาครั้งนี้จะเห็นปัจจัยที่มีผลการการกัดเซาะชายฝั่งโดยลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสภาพภูมิอากาศในพื้นที่การไหลเวียนของระบบมรสุมมีความสัมพันธ์ต่อการเปลี่ยนแปลงล...
محفوظ في:
المؤلف الرئيسي: | |
---|---|
مؤلفون آخرون: | |
التنسيق: | Theses and Dissertations |
اللغة: | English |
منشور في: |
Chulalongkorn University
2015
|
الموضوعات: | |
الوصول للمادة أونلاين: | https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:37129 |
الوسوم: |
إضافة وسم
لا توجد وسوم, كن أول من يضع وسما على هذه التسجيلة!
|
المؤسسة: | Chulalongkorn University |
اللغة: | English |
الملخص: | ตัวแปรทางอุตุนิยมวิทยาที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเลในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนโดยในการศึกษาครั้งนี้จะเห็นปัจจัยที่มีผลการการกัดเซาะชายฝั่งโดยลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสภาพภูมิอากาศในพื้นที่การไหลเวียนของระบบมรสุมมีความสัมพันธ์ต่อการเปลี่ยนแปลงลม ฝน และการไหลเวียนของกระแสน้ำในอ่าวไทย วัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของมรสุมและพายุหมุนเขตร้อน ในช่วงปี 2524-2556 ในพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน และผลของความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงมรสุมและพายุหมุนเขตร้อนที่ส่งผลต่อการกัดเซาะชายฝั่ง โดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 30 ปี ของกรมอุตุนิยมวิทยา 6 สถานี รอบๆพื้นที่ศึกษา ศึกษาโดยการประมวลด้านสถิติ และพล๊อตกราฟดูการเปลี่ยนแปลงและเปรียบเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมการกัดเซาะชายฝั่ง ผลการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของมรุสม พบว่าทิศทางลมในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีลมเปลี่ยนทิศทางจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นทิศตะวันออกมากขึ้นถึงแม้ว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีการเปลี่ยนแปลงไม่เด่นชัดแต่เนื่องจากช่วงที่การเปลี่ยนแปลงทิศทางลมในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือสอดคล้องกับการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่มากขึ้นด้วย และจากการรวบรวมข้อมูลพายุหมุนเขตร้อนในอดีตโอกาสที่จะมีพายุไต้ฝุ่นที่เคลื่อนตัวผ่านพื้นที่ศึกษามีไม่มากนัก ดังนั้นการกัดเซาะเนื่องจากพายุมีน้อยตามไปด้วย จากผลถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงแนวชายฝั่งเพิ่มขึ้นและเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลแนวกัดเซาะชายฝั่ง เรียงตามลำดับจังหวัดที่แนวกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงที่สุดไปน้อยที่สุด คือ จังหวัดเพชรบุรี 49.75 กิโลเมตร จังหวัดสมุทรปราการ 34.69 กิโลเมตร และจังหวัดสมุทรสงคราม 33.45 กิโลเมตร ดังนั้นจากการศึกษาครั้งนี้ทำให้ทราบว่าช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือทำให้เกิดการพัดพาตะกอนออกจากแนวชายฝั่งและภาพถ่ายดาวเทียมของพายุหมุนเขตร้อน Yvette 2004 ส่งผลต่อการเกิดการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนด้วยเช่นกัน |
---|