ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN

การวิเคราะห์การสะสมตัวของพายุโบราณในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทางด้านอ่าวไทย มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ลักษณะทางตะกอนวิทยา และหาอายุของการสะสมตัวของพายุที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ตะกอนพายุโบราณที่เกิดจากพายุรุนแรงสะสมตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านหลังแนวสันทรายซึ่งอยู่ห่างเป็นระยะทาง 35...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: Stapana Kongsen
Other Authors: Montri Choowong
Format: Theses and Dissertations
Language:English
Published: Chulalongkorn University 2016
Subjects:
Online Access:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:36928
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: English
id 36928
record_format dspace
spelling 369282024-02-23T09:55:34Z https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:36928 ©Chulalongkorn University Thesis 10.58837/CHULA.THE.2016.1612 eng Stapana Kongsen ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN การวิเคราะห์ตะกอนพายุโบราณในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ Chulalongkorn University 2016 2016 การวิเคราะห์การสะสมตัวของพายุโบราณในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทางด้านอ่าวไทย มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ลักษณะทางตะกอนวิทยา และหาอายุของการสะสมตัวของพายุที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ตะกอนพายุโบราณที่เกิดจากพายุรุนแรงสะสมตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านหลังแนวสันทรายซึ่งอยู่ห่างเป็นระยะทาง 350 เมตรจากชายฝั่งทะเลในปัจจุบัน การสะสมตัวของชั้นตะกอนพายุโบราณมีความหนาตั้งแต่ 0.5-50 เซนติเมตร โดยจำนวนการสะสมตัวของชั้นทรายในแต่ละชั้นน่าจะบ่งบอกถึงจำนวนการเกิดเหตุการณ์ของพายุรุนแรง ในการศึกษานี้พบชั้นทรายของพายุโบราณสะสมตัวมากถึง 27 ชั้น ขนาดทรายของตะกอนพายุโบราณมีขนาดตั้งแต่ขนาดทรายหยาบไปถึงทรายละเอียดมาก โครงสร้างทางตะกอนประกอบด้วย รอยสัมผัสแบบไม่ต่อเนื่องชัดเจนทั้งด้านบนและด้านล่างของชั้นทราย การเรียงตัวของขนาดเม็ดตะกอนในแนวดิ่งแบบปกติจากขนาดใหญ่ไปขนาดเล็ก และแบบผกผันจากขนาดเล็กไปขนาดใหญ่ พบมีชั้นทรายบางซ้อนกันในแนวขนาน และเศษตะกอนโคลนจากชั้นดินเดิมถูกกัดเซาะนำพาขึ้นมาสะสมตัวปนอยู่กับตะกอนในชั้นทราย ความหนาของชั้นทรายมีลักษณะบางลงและขนาดทรายมีลักษณะละเอียดขึ้นในทิศทางจากชายฝั่งเข้าสู่แผ่นดิน นอกจากนี้ในชั้นตะกอนพายุโบราณยังประกอบไปด้วยซากดึกดำบรรพ์ขนาดเล็ก คือ ฟอแรมมินิเฟอราและออสตราคอด และซากดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่พวกหอยฝาเดียวและหอยสองฝาจำนวนมาก องค์ประกอบของพายุโบราณประกอบด้วยแร่ควอตซ์ แร่หนัก และเศษเปลือกหอย ผลการหาอายุด้วยวิธีกระตุ้นด้วยแสงจากตะกอนของสันทราย และการเทียบเคียงผลอายุกัมมันตรังสีโดยวิธีเอเอ็มเอสจากเปลือกไม้ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ศึกษาพบว่า มีชั้นตะกอนพายุโบราณ 4 ชั้นที่มีอายุการสะสมตัวอยู่ในช่วงระหว่างสมัยโฮโลซีนตอนกลางถึงสมัยโฮโลซีนตอนปลาย และในช่วงอายุมากกว่าสมัยโฮโลซีนตอนกลางมีการสะสมตัวของพายุโบราณจำนวน 23 ชั้น การผันแปรของจำนวนการสะสมตัวของพายุในอดีตระหว่างช่วงอายุสองช่วงของพื้นที่ศึกษานี้มีปัจจัยที่ควบคุมคือ ศักยภาพของพื้นที่ในการสะสมตัว ลักษณะของพายุ ความรุนแรงของพายุ ความเร็วลมของพายุ ความสูงของคลื่นพายุซัดฝั่ง และสภาพภูมิอากาศในอดีต The analysis of ancient storm deposits in Changwat Prachuap Khiri Khan along the Gulf of Thailand is aimed to analyze the sedimentological characteristics and to define depositional age of ancient storm. Ancient storm sediments were found within a distance of 350 m landward from the present shoreline. Thickness of ancient storm deposits varies from 0.5 to 50 cm. The numbers of ancient storm layers possibly indicate the numbers of storm occurrences through time. In this research, ancient storm layers were found up to twenty-seven layers. Grain size of ancient storm sediments ranges from coarse- to very fine-grained sand. Sedimentary structures of ancient storm deposits contain sharp upper and lower contact, normal and reverse grading, parallel lamination and mud rip-up clasts. The thicknesses and grain size of deposit are thinner and finer landward. Furthermore, ancient storm layers contain several microfossils (foraminifera and ostracod) and macrofossils (gastropod and bivalve). The ancient storm sediments contain mostly quartz, heavy minerals and shell fragments. The results of Optically Stimulated Luminescence ages from beach ridges and the correlation of AMS radiocarbon age from a wood fragment from the adjacent area indicate that there are four ancient storm layers occurred in the late-Holocene to the mid-Holocene. There are twenty-three ancient storm layers older than the mid-Holocene. The variability in number of ancient storm deposit during two periods may due to several controlling factors including potential preservation of the area, storm characteristic, the intensity of storm, wind speed, surge height, and climatic condition in the past. 101 pages Sediments (Geology) -- Analysis Sediments (Geology) -- Thailand ตะกอน (ธรณีวิทยา) -- ไทย -- ประจวบคีรีขันธ์ ตะกอน (ธรณีวิทยา) -- การวิเคราะห์ Montri Choowong Sumet Phantuwongraj https://digiverse.chula.ac.th/digital/file_upload/biblio/cover/36928.jpg
institution Chulalongkorn University
building Chulalongkorn University Library
continent Asia
country Thailand
Thailand
content_provider Chulalongkorn University Library
collection Chulalongkorn University Intellectual Repository
language English
topic Sediments (Geology) -- Analysis
Sediments (Geology) -- Thailand
ตะกอน (ธรณีวิทยา) -- ไทย -- ประจวบคีรีขันธ์
ตะกอน (ธรณีวิทยา) -- การวิเคราะห์
spellingShingle Sediments (Geology) -- Analysis
Sediments (Geology) -- Thailand
ตะกอน (ธรณีวิทยา) -- ไทย -- ประจวบคีรีขันธ์
ตะกอน (ธรณีวิทยา) -- การวิเคราะห์
Stapana Kongsen
ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN
description การวิเคราะห์การสะสมตัวของพายุโบราณในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทางด้านอ่าวไทย มีจุดประสงค์เพื่อวิเคราะห์ลักษณะทางตะกอนวิทยา และหาอายุของการสะสมตัวของพายุที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ตะกอนพายุโบราณที่เกิดจากพายุรุนแรงสะสมตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านหลังแนวสันทรายซึ่งอยู่ห่างเป็นระยะทาง 350 เมตรจากชายฝั่งทะเลในปัจจุบัน การสะสมตัวของชั้นตะกอนพายุโบราณมีความหนาตั้งแต่ 0.5-50 เซนติเมตร โดยจำนวนการสะสมตัวของชั้นทรายในแต่ละชั้นน่าจะบ่งบอกถึงจำนวนการเกิดเหตุการณ์ของพายุรุนแรง ในการศึกษานี้พบชั้นทรายของพายุโบราณสะสมตัวมากถึง 27 ชั้น ขนาดทรายของตะกอนพายุโบราณมีขนาดตั้งแต่ขนาดทรายหยาบไปถึงทรายละเอียดมาก โครงสร้างทางตะกอนประกอบด้วย รอยสัมผัสแบบไม่ต่อเนื่องชัดเจนทั้งด้านบนและด้านล่างของชั้นทราย การเรียงตัวของขนาดเม็ดตะกอนในแนวดิ่งแบบปกติจากขนาดใหญ่ไปขนาดเล็ก และแบบผกผันจากขนาดเล็กไปขนาดใหญ่ พบมีชั้นทรายบางซ้อนกันในแนวขนาน และเศษตะกอนโคลนจากชั้นดินเดิมถูกกัดเซาะนำพาขึ้นมาสะสมตัวปนอยู่กับตะกอนในชั้นทราย ความหนาของชั้นทรายมีลักษณะบางลงและขนาดทรายมีลักษณะละเอียดขึ้นในทิศทางจากชายฝั่งเข้าสู่แผ่นดิน นอกจากนี้ในชั้นตะกอนพายุโบราณยังประกอบไปด้วยซากดึกดำบรรพ์ขนาดเล็ก คือ ฟอแรมมินิเฟอราและออสตราคอด และซากดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่พวกหอยฝาเดียวและหอยสองฝาจำนวนมาก องค์ประกอบของพายุโบราณประกอบด้วยแร่ควอตซ์ แร่หนัก และเศษเปลือกหอย ผลการหาอายุด้วยวิธีกระตุ้นด้วยแสงจากตะกอนของสันทราย และการเทียบเคียงผลอายุกัมมันตรังสีโดยวิธีเอเอ็มเอสจากเปลือกไม้ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ศึกษาพบว่า มีชั้นตะกอนพายุโบราณ 4 ชั้นที่มีอายุการสะสมตัวอยู่ในช่วงระหว่างสมัยโฮโลซีนตอนกลางถึงสมัยโฮโลซีนตอนปลาย และในช่วงอายุมากกว่าสมัยโฮโลซีนตอนกลางมีการสะสมตัวของพายุโบราณจำนวน 23 ชั้น การผันแปรของจำนวนการสะสมตัวของพายุในอดีตระหว่างช่วงอายุสองช่วงของพื้นที่ศึกษานี้มีปัจจัยที่ควบคุมคือ ศักยภาพของพื้นที่ในการสะสมตัว ลักษณะของพายุ ความรุนแรงของพายุ ความเร็วลมของพายุ ความสูงของคลื่นพายุซัดฝั่ง และสภาพภูมิอากาศในอดีต
author2 Montri Choowong
author_facet Montri Choowong
Stapana Kongsen
format Theses and Dissertations
author Stapana Kongsen
author_sort Stapana Kongsen
title ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN
title_short ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN
title_full ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN
title_fullStr ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN
title_full_unstemmed ANALYSIS OF ANCIENT STORM DEPOSITS IN CHANGWAT PRACHUAP KHIRI KHAN
title_sort analysis of ancient storm deposits in changwat prachuap khiri khan
publisher Chulalongkorn University
publishDate 2016
url https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:36928
_version_ 1829258116857856000