Preparation of porous hybrid composite from calcium sand

ทรายจากเกาะเสม็ด เป็นทรายที่มีลักษณะแตกต่างจากทรายอื่น ๆ ในประเทศไทย คือเป็นทรายที่มีองค์ประกอบหลักทางเคมีคือ สารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) ด้วยคุณสมบัติที่ไม่เป็นพิษ ราคาถูก และ นำมาใช้ใหม่ได้จึงเลือกสารจากเสม็ดมาใช้ในงานวิจัยการผลิตไฮบริดจ์คอมโพสิตที่มีรูพรุน โดยนำมาใช้เป็นสารประกอบอนินทรีย์ใ...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: Vararat Swatdiponphallop
Other Authors: Thanyalak Chaisuwan
Format: Theses and Dissertations
Language:English
Published: Chulalongkorn University 2013
Subjects:
Online Access:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:82823
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: English
Description
Summary:ทรายจากเกาะเสม็ด เป็นทรายที่มีลักษณะแตกต่างจากทรายอื่น ๆ ในประเทศไทย คือเป็นทรายที่มีองค์ประกอบหลักทางเคมีคือ สารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) ด้วยคุณสมบัติที่ไม่เป็นพิษ ราคาถูก และ นำมาใช้ใหม่ได้จึงเลือกสารจากเสม็ดมาใช้ในงานวิจัยการผลิตไฮบริดจ์คอมโพสิตที่มีรูพรุน โดยนำมาใช้เป็นสารประกอบอนินทรีย์ในรูปของเฟสที่กระจายตัวอยู่ (disperse phase) ในการสังเคราะห์ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการใด ๆ และมีเนื้อหลัก (matrix) เป็นพอลิเมอร์นั่นคือโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ (PVA) การสังเคราะห์สารไฮบริดจ์คอมโพสิตที่มีรูพรุน ผ่านกระบวนการขึ้นรูปโดยใช้หลักการทำให้แห้งเพื่อนำน้ำออกในบรรยากาศปกติ (ambient drying ) ทรายจากเสม็ดผลิตภัณฑ์ที่ได้ถูกนำไปพิสูจน์เอกลักษณ์ทางกายภาพ และเคมีด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ดิฟแฟรกชัน (XRD), ฟอเรียร์ทรานสฟอร์มอินฟราเรด (FTIR) สเปกโตรสโคปี, และ เครื่องวิเคราะห์เทอร์โมกราวิเมตริก (TGA) จากผลการทดลองพบว่า แคลเซียมคาร์บอเนตบริสุทธิ์ 99.8 เปอร์เซนต์ ส่วนผลิตภัณฑ์ไฮบริดจ์คอมโพสิตที่มีรูพรุนสูง ได้ถูกนำไปพิสูจน์เอกลักษณ์ทางด้านกายภาพ เคมี และสัณฐานวิทยาด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ดิฟแฟรกชัน (XRD), ฟอเรียร์ทรานสฟอร์มอินฟราเรด (FTIR) สเปกโตรสโคปี, เครื่องวิเคราะห์เทอร์โมกราวิตริก (TGA), และสแกนนิ่งอิเลคตรอนไมโครสโคปี (SEM) และเครื่องก๊าซพิคโนมิเตอร์ ในงานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาโครงสร้างและสมบัติทางกายภาพของวัสดุเพื่อนำไปใช้สำหรับทำเซนเซอร์ (sensor) ตรวจจับสารโลหะหนักชนิดนิกเกิล โดยเลือกสภาวะการทดลองที่สารประกอบมีรูพรุนมากที่สุด นั่นคือที่สภาวะ ร้อยละ 5 โดยน้ำหนักของโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ในน้ำ และมีแคลเซียมคาร์บอเนต ในสัดส่วน 50 : 50 กับโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์มีรูพรุนสูงร้อยละ 79.32 ของสารชิ้นหนึ่ง ๆ ถูกเลือกมาเพิ่มสารไดเมทิวไกลออกซีม (DMG) ร้อยละ 2 ในเอธานอล ในการสังเคราะห์ผลิตภัณฑ์ในสัดส่วน 50 : 50 กับน้ำ เมื่อนำผลิตภัณฑ์สุดท้ายไปใช้ในการดักจับโลหะหนักประเภทนิกเกิล สารประกอบของ Ni(DMG)₂ จะเกิดขึ้น และสามารถเห็นสีชมพูอมแดงของสารประกอบดังกล่าวได้ด้วยตาเปล่า และค่าความเข้มของสีสามารถวัดค่าการดูดกลืนแสงได้ในค่าแอบซอแบนซ์ (absorbance) ผ่านเครื่องเสปกโตรโฟโตเมตริก(spectrophotometric)