พฤติกรรมเชิงประกอบของพื้นสำเร็จรูป ระบบตงคอนกรีตอัดแรง และแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่

งานก่อสร้างอาคารได้นำระบบพื้นสำเร็จรูปเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประหยัดราคาไม้แบบ ค่าแรง นอกจากนี้ระบบพื้นสำเร็จรูปหล่อมาจากโรงงานสมารถควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า ในการวิจัยนี้ได้ศึกษาถึงพื้นสำเร็จรูป ระบบตงคอนกรีตอัดแรงและแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่ ซึ่งประกอบด้วตงคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูปแ...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: รังศิยากรณ์ กำประสิทธิ์
Other Authors: มานะ วงศ์พิวัฒน์
Format: Theses and Dissertations
Language:Thai
Published: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1983
Subjects:
Online Access:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:72228
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Institution: Chulalongkorn University
Language: Thai
Description
Summary:งานก่อสร้างอาคารได้นำระบบพื้นสำเร็จรูปเข้ามาใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประหยัดราคาไม้แบบ ค่าแรง นอกจากนี้ระบบพื้นสำเร็จรูปหล่อมาจากโรงงานสมารถควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า ในการวิจัยนี้ได้ศึกษาถึงพื้นสำเร็จรูป ระบบตงคอนกรีตอัดแรงและแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่ ซึ่งประกอบด้วตงคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูปแบบอัดแรงก่อน รูปตัวไอ (I) วางห่างกันเป็นระยะๆ และมีแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่หล่ออมทับตงเหล่านี้ โดยอาศัยแบบหล่อชั่วคราว เพื่อศึกษาถึงความเหมาะสมทางวิศวกรรมในการใช้งาน โดยทำการสร้าง, ทดสอบตงคอนกรีตอัดแรงและแผ่นพื้นเชิงประกอบที่มีขนาดของหน้าตัดของตง และแผ่นพื้นเชิงประกอบ อย่างละ 2 ขนาด ตามลำดับ มีค่าเปอร์เซ็นต์ของเหล็กเสริมอัดแรงตั้งแต่ .616 ถึง .885 สำหรับตง และตั้งแต่ .060 ถึง .111 สำหรับแผ่นพื้นเชิงประกอบ โดยให้ตงรับน้ำหนักบรรทุกแบบบรรทุกน้ำหนักที่จุดแบ่งสาม และให้แผ่นพื้นเชิงประกอบรับน้ำหนักบรรทุกแบบน้ำหนักบรรทุกแผ่กระจายอย่างสม่ำเสมอ ผลการทดสอบศึกษาพฤติกรรมการรับน้ำหนักบรรทุกของตงและแผ่นพื้นเชิงประกอบพบว่า ส่วนของแผนพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่ ที่หล่ออมทับตงคคอนกรีตอัดแรงไว้นั้น ทำให้เกิดคุณสมบัติเชิงประกอบที่สมบูรณ์ (Fully composite action) ส่วนน้ำหนักบรรทุกแตกร้าวเริ่มแรก (First cracking load) และน้ำหนักบรรทุกประลัย (Ultimate load) มีค่าใกล้เคียงกับน้ำหนักบรรทุกที่คำนวณจากทฤษฎี การคืนตัวของระยะการแอ่นตัว (Recover of Deflection) ของแผ่นพื้นเชิงประกอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้จากการทดสอบกดชิ้นตัวอย่างเพื่อหากำลังรับแรงเฉือนที่ผิวสัมผัสระหว่างตงคอนกรีตอัดแรงกับแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่ พบว่า ผิวสัมผัสเรียบ และผิวสัมผัสหยาบจะให้ค่าหน่วยแรงเฉือนที่ผิวสัมผัสสูงสุด เท่ากับ 15.77 กก/ซม² และ 27.33 กก/.ซม² ตามลำดับ และจากการเปรียบเทียบประสิทธิภาพในเชิงทฤษฎีของพื้นระบบดังกล่าว กับพื้นระบบอื่นๆ ปรากฎว่าพื้นสำเร็จรูประบบตงคอนกรีตอัดแรงและแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อกับที่นั่นจะมีประสิทธิภาพของโครงสร้างและความค่อนข้างประหยัดดีกว่าพื้นระบบอื่นๆ