การซื้ออาวุธทันสมัยกับการเมืองระหว่างประเทศ : ศึกษากรณีประเทศไทยกับเครื่องบินเอฟ-16

ในการศึกษานี้ ผู้ทำการศึกษาได้ตั้งสมมติฐานไว้ดังนี้ คือ การตัดสินใจซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบ เอฟ-18 เอ/บีนั้น มีปัจจัยที่กำหนดคือ "แนวความคิดของผู้มีอำนาจเกี่ยวกับความต้องการของระบบป้องกันประเทศของไทย" แนวความคิดดังกล่าวได้แก่ การมองว่าเวียดนามเป็นภัยและความต้องการพัฒนากองทัพให้ทั...

وصف كامل

محفوظ في:
التفاصيل البيبلوغرافية
المؤلف الرئيسي: พันธ์นิดา ธูปะเตมีย์
مؤلفون آخرون: สุขุมพันธุ์ บริพัตร
التنسيق: Theses and Dissertations
اللغة:Thai
منشور في: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1988
الوصول للمادة أونلاين:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:68637
الوسوم: إضافة وسم
لا توجد وسوم, كن أول من يضع وسما على هذه التسجيلة!
الوصف
الملخص:ในการศึกษานี้ ผู้ทำการศึกษาได้ตั้งสมมติฐานไว้ดังนี้ คือ การตัดสินใจซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์แบบ เอฟ-18 เอ/บีนั้น มีปัจจัยที่กำหนดคือ "แนวความคิดของผู้มีอำนาจเกี่ยวกับความต้องการของระบบป้องกันประเทศของไทย" แนวความคิดดังกล่าวได้แก่ การมองว่าเวียดนามเป็นภัยและความต้องการพัฒนากองทัพให้ทันสมัยและพึ่งตนเอง เพื่อรับภัยคุกคามนั้น การซื้อระบบอาวุธทันสมัยโดยประเทศในโลกที่สามเป็นปรากฏการณ์สำคัญแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในการเมืองระหว่างประเทศ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 เป็นต้นมา การค้าอาวุธทันสมัยกับโลกที่ 3 ได้ขยายตัวออกไปมากทั้งด้านปริมาณและมูลค่าการซื้อขายอาวุธ ประเทศผู้ซื้อ และการเปลี่ยนแปลงในเรื่องคุณภาพของอาวุธที่มีความทันสมัยขึ้นเรื่อย ๆ มีความพยายามที่จะศึกษาว่าเหตุใดประเทศโลกที่ 3 จึงมีการซื้อขายอาวุธทันสมัยในขอบเขตที่กว้างขวาง แต่เนื่องจากปรากฏการณ์ในระดับโลกมีความสลับซับซ้อนมาก และยากที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริง และเนื่องจากแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะของตน ดังนั้น เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในปรากฏการณ์ดังกล่าวแนวทางในการศึกษาควรเป็นการศึกษาเฉพาะกรณี การทำวิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงได้เลือกศึกษากรณีของประเทศไทย เกี่ยวกับการตัดสินใจของรัฐบาลในการซื้อเครื่องบิน เอฟ-18 ให้กับกองทัพอากาศในช่วงปี 1983-1987 เมื่อศึกษาจากข้อมูลขั้น ทุติยภูมิ (secondary sources) คือจากบทความต่าง ๆ และจากข้อมูลขั้นปฐมภูมิ (primary sources) คือแถลงการณ์ และ การสัมภาษณ์ผู้มีบทบาทในการตัดสินใจโดยเฉพาะผู้นำทหารระดับสูงในระยะเวลาดังกล่าว คือ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด และพล.อ.อ. ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ แล้วปรากฏว่ามีแนวความคิดการมองปัญหาภัยคุกคามไปในทางเดียวกัน และมีความต้องการพัฒนากองทัพให้ทันสมัย โดยการซื้อเครื่องบินเอฟ-18 เข้าประจำการ ซึ่งเป็นการยืนยันสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้ และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าการซื้ออาวุธทันสมัยมิได้เป็นเรื่องของการเมืองระหว่างประเทศนั้น แต่บทบาทของผู้นำทหารระดับสูงในการเมืองภายในประเทศมีส่วนสำคัญอย่างมากเช่นกันที่ทำให้เกิดการดำเนินการจนบรรลุผลสำเร็จได้