การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์
ได้มีการศึกษาอย่าง เป็นระบบเกี่ยวกับการผลิตและคุณสมบัติพื้นฐานของฟิล์มบางอะมอร์พัสซิลิคอน (amorphous silicon ย่อว่า a-Si;H) คุณสมบัติทางด้านโครงสร้างเช่น จำนวนแขนขาดของ a-Si:H ตรวจสอบด้วยวิธี ESR ( Electron Spin Resonance ) และนำผลไปเปรียบ เทียบกับ คุณสมบัติการนำไฟฟ้าด้วยแสง พบว่าเงื่อนไขการผลิตที่จ...
Saved in:
Main Author: | |
---|---|
Other Authors: | |
Format: | Theses and Dissertations |
Language: | Thai |
Published: |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1992
|
Online Access: | https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:65608 |
Tags: |
Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
|
Institution: | Chulalongkorn University |
Language: | Thai |
id |
65608 |
---|---|
record_format |
dspace |
spelling |
656082024-03-23T11:26:10Z https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:65608 ©จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Thesis 10.58837/CHULA.THE.1992.675 tha ภาวัน สยามชัย การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ Characterization of amorphoua silicon and its applications to optoelectronic devices 1992 1992 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีการศึกษาอย่าง เป็นระบบเกี่ยวกับการผลิตและคุณสมบัติพื้นฐานของฟิล์มบางอะมอร์พัสซิลิคอน (amorphous silicon ย่อว่า a-Si;H) คุณสมบัติทางด้านโครงสร้างเช่น จำนวนแขนขาดของ a-Si:H ตรวจสอบด้วยวิธี ESR ( Electron Spin Resonance ) และนำผลไปเปรียบ เทียบกับ คุณสมบัติการนำไฟฟ้าด้วยแสง พบว่าเงื่อนไขการผลิตที่จะได้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติดีที่สุด กล่าวคือจำนวนแขน ขาดน้อยที่สุดคือ อุณหภูมิของแผ่นฐานประมาณ 250 °ซ และใช้ RF power ประมาณ 40 วัตต์ ได้มีการทดลองผลิต a-Si :H เป็นเซลส์แสงอาทิตย์ชนิดฟิล์มบาง ด้วยโครงสร้างรอยต่อชนิด p-i-n บนแผ่นฐานแก้ว และตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานของเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตได้ ด้วยการวัดสเปกตรัม ผลตอบสนองทางแสง และศักย์ไฟฟ้าภายใน (built-in potential) ต่อจากนั้นได้ทำการปรับปรุง ประสิทธิภาพของเซลล์ให้ดีขึ้น ด้วยการหาค่าความหนาที่เหมาะสมของรอยต่อแต่ละชั้น และออกแบบให้ชั้น p ทำจากวัสดุอะมอร์พัสซิลิคอนคาร์ไบด์ซึ่งมีขนาดช่องว่างพลังงานกว้างกว่าชั้น i ผลการปรับปรุงได้ เซลล์แสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่ากับ 6.67% ในการนำเซลล์ฯไปใช้งาน ได้ทดลองออกแบบและผลิตเซลล์ฯ ให้มีโครงสร้างเป็นวงจรรวม (Integrated Type) โดยได้ผลิตโมดูลที่มีเซลล์ย่อย 12 ตัว ต่ออนุกรมกันบนแผ่นฐานแก้วเดียวกัน และ ได้นำโมดูล 3 ตัวมาต่ออนุกรมกันเป็นแผงใหญ่ เพื่อนำไปใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ได้สำเร็จ นอกจากนี้ ได้มีการศึกษาการประยุกต์ใช้ฟิล์มบางอะมอร์ฟัสซิลิคอน ในการผลิตเป็นเซนเซอร์ แบบฟิล์มบางตรวจวัดสีของแสง และมีการสร้างวงจรเพื่อประมวลผลตอบจากเซนเซอร์ และนำเอาระบบทั้งชุดไปทดลองใช้งาน ได้ผลว่าเซนเซอร์สามารถบอกสีของแสงอินพุทได้อย่างถูกต้องว่าเป็นสีอะไรในช่วง visible เช่น สีแดง สีเหลือง สีเขียว และ สีน้ำเงิน 148 pages ดุสิต เครืองาม https://digiverse.chula.ac.th/digital/file_upload/biblio/cover/65608.jpg |
institution |
Chulalongkorn University |
building |
Chulalongkorn University Library |
continent |
Asia |
country |
Thailand Thailand |
content_provider |
Chulalongkorn University Library |
collection |
Chulalongkorn University Intellectual Repository |
language |
Thai |
description |
ได้มีการศึกษาอย่าง เป็นระบบเกี่ยวกับการผลิตและคุณสมบัติพื้นฐานของฟิล์มบางอะมอร์พัสซิลิคอน (amorphous silicon ย่อว่า a-Si;H) คุณสมบัติทางด้านโครงสร้างเช่น จำนวนแขนขาดของ a-Si:H ตรวจสอบด้วยวิธี ESR ( Electron Spin Resonance ) และนำผลไปเปรียบ เทียบกับ คุณสมบัติการนำไฟฟ้าด้วยแสง พบว่าเงื่อนไขการผลิตที่จะได้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติดีที่สุด กล่าวคือจำนวนแขน ขาดน้อยที่สุดคือ อุณหภูมิของแผ่นฐานประมาณ 250 °ซ และใช้ RF power ประมาณ 40 วัตต์ ได้มีการทดลองผลิต a-Si :H เป็นเซลส์แสงอาทิตย์ชนิดฟิล์มบาง ด้วยโครงสร้างรอยต่อชนิด p-i-n บนแผ่นฐานแก้ว และตรวจสอบคุณสมบัติพื้นฐานของเซลล์แสงอาทิตย์ที่ผลิตได้ ด้วยการวัดสเปกตรัม ผลตอบสนองทางแสง และศักย์ไฟฟ้าภายใน (built-in potential) ต่อจากนั้นได้ทำการปรับปรุง ประสิทธิภาพของเซลล์ให้ดีขึ้น ด้วยการหาค่าความหนาที่เหมาะสมของรอยต่อแต่ละชั้น และออกแบบให้ชั้น p ทำจากวัสดุอะมอร์พัสซิลิคอนคาร์ไบด์ซึ่งมีขนาดช่องว่างพลังงานกว้างกว่าชั้น i ผลการปรับปรุงได้ เซลล์แสงอาทิตย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่ากับ 6.67% ในการนำเซลล์ฯไปใช้งาน ได้ทดลองออกแบบและผลิตเซลล์ฯ ให้มีโครงสร้างเป็นวงจรรวม (Integrated Type) โดยได้ผลิตโมดูลที่มีเซลล์ย่อย 12 ตัว ต่ออนุกรมกันบนแผ่นฐานแก้วเดียวกัน และ ได้นำโมดูล 3 ตัวมาต่ออนุกรมกันเป็นแผงใหญ่ เพื่อนำไปใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ได้สำเร็จ นอกจากนี้ ได้มีการศึกษาการประยุกต์ใช้ฟิล์มบางอะมอร์ฟัสซิลิคอน ในการผลิตเป็นเซนเซอร์ แบบฟิล์มบางตรวจวัดสีของแสง และมีการสร้างวงจรเพื่อประมวลผลตอบจากเซนเซอร์ และนำเอาระบบทั้งชุดไปทดลองใช้งาน ได้ผลว่าเซนเซอร์สามารถบอกสีของแสงอินพุทได้อย่างถูกต้องว่าเป็นสีอะไรในช่วง visible เช่น สีแดง สีเหลือง สีเขียว และ สีน้ำเงิน |
author2 |
ดุสิต เครืองาม |
author_facet |
ดุสิต เครืองาม ภาวัน สยามชัย |
format |
Theses and Dissertations |
author |
ภาวัน สยามชัย |
spellingShingle |
ภาวัน สยามชัย การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
author_sort |
ภาวัน สยามชัย |
title |
การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
title_short |
การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
title_full |
การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
title_fullStr |
การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
title_full_unstemmed |
การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
title_sort |
การศึกษาลักษณะสมบัติของอะมอร์ฟัสซิลิคอน และการประยุกต์ใช้งานออปโตอิเล็กทรอนิกส์ |
publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
publishDate |
1992 |
url |
https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:65608 |
_version_ |
1831161102692515840 |