MTF Measurement for inkjet printing on silk fabrics

Modulation transfer function (MTF) เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้สำหรับประเมินคุณภาพของ อุปกรณ์สำหรับการบันทึกภาพ เช่น เลนส์ สแกนเนอร์ เป็นต้น และคุณภาพงานพิมพ์ (ฟิล์ม กระดาษ และ ผ้า) ลักษณะโครงสร้างของผ้าไหมมีผลต่อคุณภาพงานพิมพ์ของระบบพิมพ์อิงก์เจ็ตมาก เนื่องจากปรากฏการณ์การกระเจิงของแสงในผ้าไหมทำให้เกิดเม็...

Full description

Saved in:
Bibliographic Details
Main Author: Apinya Janasak
Other Authors: Suda Kiatkamjornwong
Format: Theses and Dissertations
Language:English
Published: Chulalongkorn University 2005
Subjects:
Online Access:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:39110
Tags: Add Tag
No Tags, Be the first to tag this record!
Description
Summary:Modulation transfer function (MTF) เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้สำหรับประเมินคุณภาพของ อุปกรณ์สำหรับการบันทึกภาพ เช่น เลนส์ สแกนเนอร์ เป็นต้น และคุณภาพงานพิมพ์ (ฟิล์ม กระดาษ และ ผ้า) ลักษณะโครงสร้างของผ้าไหมมีผลต่อคุณภาพงานพิมพ์ของระบบพิมพ์อิงก์เจ็ตมาก เนื่องจากปรากฏการณ์การกระเจิงของแสงในผ้าไหมทำให้เกิดเม็ดสกรีนบวมเชิงแสง (optical dot gain) ซึ่งจะมีผลต่อความ คมชัดของภาพที่พิมพ์งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะวัด MTF ของผ้าไหมและความสัมพันธ์ของ MTF และ ความคมชัดของคุณภาพงานพิมพ์ผ้าไหมด้วยหมึกพิมพ์อิงก์เจ็ตที่ผลิตเองโดยในงานวิจัยนี้จะนำแผ่นทดสอบ ที่มีลักษณะดำสลับขาวที่มีความถี่ 0.375-3.0 คู่ต่อมิลลิเมตรแบบ Sinusoidal วางบนผ้าแล้ววัดด้วยเครื่องวัด ความดำแบบละเอียด โดยค่าที่วัดได้จะเป็นค่าความดำแบบสะท้อนแสง ซึ่งผลที่ได้จะประกอบด้วยความถี่ที่ ซ้อนทับกัน 2 ช่วงความถี่ ที่ความถี่สูงจะแสดงลักษณะเฉพาะของผ้าไหม ขณะที่ความถี่ต่ำจะเป็นการ กระเจิงแสงในเส้นใยผ้าไหมและแผ่นทดสอบ โดยข้อมูลที่อยู่ในช่วงความถี่ต่ำจะนำมาคำนวณหา MTF ของผ้าไหม นอกจากนี้ ลักษณะการทอ สมบัติการดูดซึมน้ำ ความคมชัดของงานพิมพ์ และ MTF ของผ้า ไหม 4 แบบที่มีลักษณะต่างๆกัน จะถูกศึกษาในงานวิจัยนี้ พบว่าผ้าไหม A, C, และ D ทอลายขัดที่มีความละเอียดในการทอต่างๆกัน ส่วนผ้าไหม B ทอลายทวิล ผลของการบวมเม็ดสกรีน โดยใช้โมเดล Yule Nielsen จะนำมาเทียบกับ MTF เพื่อยืนยันผลการคำนวณด้วยเทคนิคการวัด MTF ในงานวิจัยนี้ ค่าคงที่ 4 คำนวณจากสมการเอมพิริคัล MTF ดีที่สุดคือ ผ้าไหมแบบ D มีค่า 0.0604 และค่าคงที่ n คำนวณจากโมเดล Yule-Nielsen พบว่าผ้าไหมแบบ D มีค่า 1.636 นั้นคือ ผ้าไหมแบบ D มีค่าคงที่ d และ n น้อยที่สุด ซึ่งจะ ให้คุณภาพของความคมชัดดี