Dark energy and stabilization of the universe in extra dimensional model

การขยายตัวของเอกภพด้วยอัตราเร่งในยุคปัจจุบันได้ถูกค้นพบจากการสังเกตการณ์ซุปเปอร์โนวาชนิด Ia เราเรียกพลังงานที่ทำให้เอกภพขยายตัวด้วยอัตราเร่งนี้ว่าพลังงานมืด ในอีกด้านหนึ่งทฤษฎีสตริงเชื่อว่าอวกาศสามารถมีมิติได้มากกว่าสามมิติ ถ้ากาลอวกาศมีมิติเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากกาลอวกาศสี่มิติที่เราสัมผัสได้ แสดงว่...

وصف كامل

محفوظ في:
التفاصيل البيبلوغرافية
المؤلف الرئيسي: Chatchai Promsiri
مؤلفون آخرون: Piyabut Burikham
التنسيق: Theses and Dissertations
اللغة:English
منشور في: Chulalongkorn University 2010
الموضوعات:
الوصول للمادة أونلاين:https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:38158
الوسوم: إضافة وسم
لا توجد وسوم, كن أول من يضع وسما على هذه التسجيلة!
المؤسسة: Chulalongkorn University
اللغة: English
الوصف
الملخص:การขยายตัวของเอกภพด้วยอัตราเร่งในยุคปัจจุบันได้ถูกค้นพบจากการสังเกตการณ์ซุปเปอร์โนวาชนิด Ia เราเรียกพลังงานที่ทำให้เอกภพขยายตัวด้วยอัตราเร่งนี้ว่าพลังงานมืด ในอีกด้านหนึ่งทฤษฎีสตริงเชื่อว่าอวกาศสามารถมีมิติได้มากกว่าสามมิติ ถ้ากาลอวกาศมีมิติเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากกาลอวกาศสี่มิติที่เราสัมผัสได้ แสดงว่ามิติเพิ่มเติมเหล่านี้จะต้องขดม้วนอยู่และซ่อนตัวจากการสังเกตการณ์ของเรา นอกจากนี้จะต้องมีกระบวนการบางอย่างในการสร้างเสถียรภาพให้กับมิติเพิ่มเติมได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็ควรจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของมันได้จากการทดลอง ในปี 2007 ไบรอัน กรีน และแจนนา เลวิน ได้เสนอว่าพลังงานคาสิเมียร์จากการรวมกันระหว่างสนามโบซอนกับสนามเฟอร์มิออน จะให้เสถียรภาพกับมิติเพิ่มเติมได้ และในทางตรงกันข้ามพลังงานคาสิเมียร์นี้จะทำหน้าที่เป็นพลังงานสุญญากาศผลักอวกาศสามมิติให้ขยายตัวออกด้วยอัตราเร่ง ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่พลังงานคาสิเมียร์จะเป็นพลังงานมืดได้ ในวิทยานิพนธ์ฉบับนี้เราได้ศึกษาผลของสนามอีเธอร์ซึ่งเป็นสนามเวกเตอร์ที่ละเมิดสมมาตรลอเร็นซ์ต่อเสถียรภาพของมิติเพิ่มเติม ในแบบจำลองจะกำหนดให้ค่าเจาะจงของสนามอีเธอร์ไม่เท่ากับศูนย์ในทิศของมิติเพิ่มเติม ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่าเฉพาะเงื่อนไขเริ่มต้นบางค่าสนามอีเธอร์จะไปหน่วงการสั่นของมิติเพิ่มเติม ส่งผลให้มิติเพิ่มเติมมีเสถียรภาพได้แม้ว่าจะมีสสารกระจายตัวอยู่ในเอกภพมากที่สุดก็ตาม