GROUNDWATER BALANCE OF PHRAE BASIN USING MODFLOW AND GIS IN CHANGWAT PHRAE
จังหวัดแพร่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำมาเป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้ง ดังนั้นการสำรวจและการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำบาดาลมีความจำเป็นเพิ่มขึ้นอย่างมาก จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เพื่อทำการประเมินปริมาณการเติมน้ำลงสู่ชั้นหินอุ้มน้ำ รวมทั้งประเมินระบบการไหลและดุลของน้ำบาลรายจังหวัด ข้อมูลที่ใช้ได้...
محفوظ في:
المؤلف الرئيسي: | |
---|---|
مؤلفون آخرون: | |
التنسيق: | Theses and Dissertations |
اللغة: | English |
منشور في: |
Chulalongkorn University
2013
|
الموضوعات: | |
الوصول للمادة أونلاين: | https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:37479 |
الوسوم: |
إضافة وسم
لا توجد وسوم, كن أول من يضع وسما على هذه التسجيلة!
|
الملخص: | จังหวัดแพร่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำมาเป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูแล้ง ดังนั้นการสำรวจและการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำบาดาลมีความจำเป็นเพิ่มขึ้นอย่างมาก จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เพื่อทำการประเมินปริมาณการเติมน้ำลงสู่ชั้นหินอุ้มน้ำ รวมทั้งประเมินระบบการไหลและดุลของน้ำบาลรายจังหวัด ข้อมูลที่ใช้ได้รับมาจากภาครัฐและเอกชน รวมทั้งการสำรวจภาคสนามปี 2555-2556 ผลจากการสร้างโครงร่างแบบจำลองเชิงมโนทัศน์ทางอุทกธรณีวิทยา พบว่าในพื้นที่สามารถแบ่งประเภทชั้นหินอุ้มน้ำได้สามประเภทคือ ชั้นตะกอนตะพักลำน้ำ ( Qfd ), ชั้นตะกอนเชิงเขา ( Qyt และ Qot ) และ ชั้นหินแข็งอุ้มน้ำ ( TRjik และ PCms ) ทิศทางการไหลของชั้นหินอุ้มน้ำทุกชั้นไหลจากทางทิศเหนือไปยังทิศใต้ด้วยค่าความลาดทางชลศาสตร์เฉลี่ยประมาณ 0.0013 ซึ่งสอดคล้องกับแบบจำลองการไหลของน้ำบาดาลโดยใช้โปรแกรม MODFLOW นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนกลางแอ่งน้ำบาดาลและแม่น้ำยมเป็นพื้นที่ไหลออกของน้ำบาดาล อัตราการเติมน้ำบาดาลแต่ละฤดูกาลถูกประมาณค่าและแสดงผลในเชิงพื้นที่โดยใช้โมดูล WetSpass ผลการศึกษาพบการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลของอัตราการเติมน้ำบาดาลมีค่าระหว่าง 0-320 มม./ ปี และพบว่าศักยภาพของพื้นที่เติมน้ำสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและลักษณะทางอุทกวิทยา ผลจากการประเมินค่าอัตราการเติมน้ำรายฤดูกาลด้วยโมดูล WetSpass ถูกนำมาใช้และปรับเทียบในโปรแกรม MODFLOW ซึ่งผลจากแบบจำลองแสดงถึงดุลของน้ำบาดาลที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล โดยอัตราการเติมน้ำบาดาลจะมีปริมาณที่สูงในช่วงฤดูฝน และดุลของน้ำบาดาลรายปีพบว่าปริมาณน้ำไหลเข้าแอ่งจะมีค่าสูงกว่าปริมาณน้ำไหลออกจากแอ่งประมาณ 111,320 ลูกบาศก์เมตร ต่อปี เพื่อกำหนดปริมาณการสูบน้ำที่ปลอดภัยอย่างยั่งยืน แบบจำลองของน้ำบาดาลในจังหวัดแพร่ถูกแบ่งเป็นสามกรณีศึกษา คือ การเพิ่มอัตราสูบน้ำในพื้นที่เป็นร้อยละ 25, ร้อยละ 50 และ ร้อยละ 100 ของปริมาณการสูบเดิม ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงในพื้นที่จังหวัดแพร่สามารถเพิ่มอัตราการสูบทดสอบได้ไม่เกินร้อยละ 50 จากปริมาณเดิม ซึ่งผลการศึกษาเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการพัฒนาและการนำไปใช้ต่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลที่เหมาะสมอย่างยั่งยืนต่อไป |
---|