Continuous biofuel production from palm oil in supercritical alcohols
กระบวนการผลิตเชื้อเพลิงในแอลกอฮอล์ภาวะเหนือวิกฤตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เนื่องจากกระบวนการนี้มีข้อได้เปรียบเหนือกว่ากระบวนการแบบดั้งเดิมซึ่งใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเอกพันธุ์ คือ มีประสิทธิภาพสูงและใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย อย่างไรก็ตามการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในแอลกอฮอล์ภาวะเหนือวิกฤ...
Saved in:
主要作者: | |
---|---|
其他作者: | |
格式: | Theses and Dissertations |
語言: | English |
出版: |
Chulalongkorn University
2015
|
主題: | |
在線閱讀: | https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:37014 |
標簽: |
添加標簽
沒有標簽, 成為第一個標記此記錄!
|
機構: | Chulalongkorn University |
語言: | English |
總結: | กระบวนการผลิตเชื้อเพลิงในแอลกอฮอล์ภาวะเหนือวิกฤตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เนื่องจากกระบวนการนี้มีข้อได้เปรียบเหนือกว่ากระบวนการแบบดั้งเดิมซึ่งใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเอกพันธุ์ คือ มีประสิทธิภาพสูงและใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย อย่างไรก็ตามการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในแอลกอฮอล์ภาวะเหนือวิกฤตใช้อัตราส่วนโดยโมลแอลกอฮอล์ต่อน้ำมันพืช 40:1–42:1 เพื่อให้ได้ร้อยละเอสเทอร์สูงสุด ทำให้จำเป็นต้องใช้พลังงานมากเพื่อนำแอลกอฮอล์กลับมาใช้ใหม่ ซึ่งสร้างภาระต่อสิ่งแวดล้อมมากตามไปด้วย ดังนั้นงานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดปริมาณการใช้แอลกอฮอล์สำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากชีวมวลลิพิดในแอลกอฮอล์ภาวะเหนือวิกฤต จุดประสงค์แรกของงานวิจัยนี้คือหาภาวะที่เหมาะสมสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในเครื่องปฏิกรณ์แบบแบตช์ จากการศึกษาโดยวิธีการพื้นผิวตอบสนอง (Response surface methodology) พบว่าที่อุณหภูมิ 400 องศาเซลเซียสสามารถลดอัตราส่วนโดยโมลแอลกอฮอล์ต่อน้ำมันพืชเป็น 12:1 จุดประสงค์ที่สองคือ การขยายการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพในเครื่องปฏิกรณ์แบบต่อเนื่อง พบว่าการใช้อัตราส่วนโดยโมลแอลกอฮอล์ต่อน้ำมันพืช 12:1 ที่อุณหภูมิ 400 องศาเซลเซียส ให้ร้อยละการเปลี่ยนของไตรกลีเซอร์ไรด์สูงถึง 99 และให้ร้อยละเอสเทอร์สูงสุดอยู่ในช่วง 80-90 นอกจากนี้ยังพบปฏิกิริยาข้างเคียงของกลีเซอรอลกับแอลกอฮอล์ที่ 400 องศาเซลเซียสและความดัน 15 เมกะพาสคัลส่งผลดีต่อการเพิ่มร้อยละผลได้เชื้อเพลิงในช่วง 2-15 เทียบกับน้ำหนักน้ำมันปาล์มตั้งต้น |
---|