Prevalence of Cardiovascular Complications and Anti-platelet Therapy Used among Thai Type 2 Diabetes Patients in 2012
ความเป็นมา: เบาหวาน ชนิดที่2 เป็นโรคหนึ่งที่พบมากทั่วโลก เป็นภาวะที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรังต่างๆ ภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด หรือ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ สามารถป้องกันได้บ้าง จากการให้ยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือด ซึ่งนิยมใช้ยาแอสไพริน ในการศึกษานี้ จะได้วิเคราะห...
محفوظ في:
المؤلف الرئيسي: | |
---|---|
مؤلفون آخرون: | |
التنسيق: | Theses and Dissertations |
اللغة: | English |
منشور في: |
Chulalongkorn University
2014
|
الموضوعات: | |
الوصول للمادة أونلاين: | https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:31039 |
الوسوم: |
إضافة وسم
لا توجد وسوم, كن أول من يضع وسما على هذه التسجيلة!
|
المؤسسة: | Chulalongkorn University |
اللغة: | English |
الملخص: | ความเป็นมา: เบาหวาน ชนิดที่2 เป็นโรคหนึ่งที่พบมากทั่วโลก เป็นภาวะที่ก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนเรื้อรังต่างๆ ภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด หรือ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ สามารถป้องกันได้บ้าง จากการให้ยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือด ซึ่งนิยมใช้ยาแอสไพริน ในการศึกษานี้ จะได้วิเคราะห์อัตราการจ่ายยาต้านเกล็ดเลือดให้ผู้ป่วยทั้งเป็นการป้องกันระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิ ของผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่สอง ของคนไทย ใน ปี ค.ศ. 2012 วัตถุประสงค์: เพื่อคำนวณความชุกของภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ และร้อยละของการจ่ายยาต้านเกล็ดเลือดให้ผู้ป่วยที่ไม่พบ และ พบ มีโรคเรื้อรังที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ ของผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่สอง ของคนไทย ใน ปี ค.ศ. 2012 วัสดุและวิธีการ: การศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ในโครงการ เบาหวาน/ ความดันโลหิตสูง ของประเทศไทย ข้อมูลต่างๆ เก็บย้อนหลังจากสารสนเทศทางการแพทย์ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นลำดับชั้น ของโรงพยาบาลที่อยู่ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ และ โรงพยาบาล และคลินิกที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลที่ใช้สิทธิ์ของประกันสังคม ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 602 แห่ง ผู้นิพนธ์ใช้แหล่งข้อมูลทุติยภูมินี้ ในการวิเคราะห์ ผลการศึกษา: ในจำนวนผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง 29,374 คน ร้อยละ 5.8 (ค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ95 อยู่ที่ 5.6-6.2) มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ โดยที่ ร้อยละ 7, 8.2, และ 4.6 เป็นผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล ระดับ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน ตามลำดับ การสั่งยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือดโดยรวมของผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ อยู่ที่ร้อยละ 84.9 (ค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ95 อยู่ที่ 82.9-86.6) ขณะที่การสั่งยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือดโดยรวมของผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ อยู่ที่ร้อยละ 57.1 (ค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ95 อยู่ที่ 56.5-57.7) ผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ส่วนใหญ่ไปรับยาที่โรงพยาบาลชุมชน การสั่งยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือดให้ผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่มีแนวโน้มที่จะให้แก่ผู้ป่วยสูงอายุผู้ชาย ผู้ที่มีประวัติหยุดสูบบุหรี่ และผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง สรุปผลการศึกษา: ความชุกของภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด หรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่ ของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สองในคนไทยในปี ค.ศ. 2012 อยู่ในเกณฑ์ที่คาดหมาย การสั่งยาต้านการทำงานของเกล็ดเลือดหรือยาแอสไพรินให้ผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากพยาธิสภาพในหลอดเลือดใหญ่มีอัตราที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ควรจะมีร้อยละ 90 |
---|