แนวทางการกำกับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจำทางในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางความเจริญและเป็นศูนย์รวมของประชากรจํานวนมาก จึงส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรบนท้องถนนมาอย่างยาวนาน ปัญหานี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยแต่ปัจจัยหลักคงหนีไม่พ้นเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ซี่งอุบัติเหตุส่วนมากเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมายและบ่อยครั้งที่พบว่าผู...
Saved in:
主要作者: | |
---|---|
其他作者: | |
格式: | Independent Study |
語言: | Thai |
出版: |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2021
|
主題: | |
在線閱讀: | https://digiverse.chula.ac.th/Info/item/dc:11199 |
標簽: |
添加標簽
沒有標簽, 成為第一個標記此記錄!
|
總結: | กรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางความเจริญและเป็นศูนย์รวมของประชากรจํานวนมาก จึงส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรบนท้องถนนมาอย่างยาวนาน ปัญหานี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยแต่ปัจจัยหลักคงหนีไม่พ้นเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ซี่งอุบัติเหตุส่วนมากเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฎหมายและบ่อยครั้งที่พบว่าผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางก็มีพฤติกรรมการขับขี่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน จากสถิติการรับเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานครที่มีการร้องเรียนเป็นจํานวนมาก เช่น ขับแทรกและปาดหน้ารถร่วมทางขับรถเร็ว ขับรถกระชาก กลับรถในที่ห้ามกลับ และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางไม่ควรกระทําเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางควรมีจิตสํานึกที่ดีในการให้บริการและควรตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสําคัญจากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าวพบว่ากฎหมายที่ใช้ในการกํากับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานครมีการบัญญัติบทลงโทษผู้กระทําผิดไว้ค่อนข้างเบาและกฎหมายมีช่องว่างให้ผู้กระทําผิดมีโอกาสในการกระทําผิดซ้ำ จึงส่งผลให้ผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานครไม่เกรงกลัวต่อมาตรการที่ใช้ในการลงโทษตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ เมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายที่ใช้ในการกํากับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางในประเทศสิงคโปร์ที่มีการบัญญัติบทลงโทษผู้กระทําผิดไว้ค่อนข้างสูงอีกทั้งยังมีการเพิ่มโทษในกรณีที่มีการกระทําผิดซ้ํ้ำในความผิดเดิม จึงส่งผลให้พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางของประเทศสิงคโปร์มีมาตราฐานที่ดี ดังนั้นจึงควรปรับปรุงแนวทางการกํากับดูแลพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่รถโดยสารประจําทางในกรุงเทพมหานครโดยผู้เขียนขอเสนอให้มีการพิจารณาแก้ไขระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2564 ในข้อ 12 และข้อ 16คือขอให้พิจารณาเพิ่มโทษในกรณีที่มีการกระทําผิดซ้ำในความผิดเดิมและกำหนดระยะเวลาในการกระทําผิดซ้ำห้แคบลง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกํากับดูแลให้มีมาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น |
---|